กระทรวงอุตสาหกรรม จัดทัพใหญ่ขับเคลื่อน SME ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการไทยเข้าสู่ตลาดโลก
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในระหว่างกิจกรรม SMEs สัญจร พลิกธุรกิจสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ครั้งที่ 1 ว่ากระทรวงมีนโยบายที่จะพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตามยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน SME 4.0 โดยมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมอาหารอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและของฝากของที่ระลึก
“เรามีมาตรการที่จะช่วย SME ในพื้นที่ภาคเหนือให้พัฒนาตนเองและเดินหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน ด้วยกลไกลประชารัฐที่ขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งแนวทางสำคัญหนึ่งก็คือ การสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยง SME สู่การนำนวัตกรรมมาใช้ในเชิงพาณิชย์ และเปิดโอกาส ให้สินค้าและบริการของไทยเข้าสู่ตลาดโลกผ่าน E-Commerce แพลตฟอร์ม” นายอุตตม กล่าว
การสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยง SME สู่การนำนวัตกรรมมาใช้ในเชิงพาณิชย์ จะทำผ่านศูนย์ปฏิรูปสู่อุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center : ITC) ซึ่งศูนย์ ITC จ.เชียงใหม่ เป็นศูนย์ต้นแบบความสำเร็จยุค 4.0 และพัฒนา Local Identity จากลักษณะเด่นของธุรกิจทางภาคเหนือเพื่อสร้างเศรษฐกิจและชุมชน โดยศูนย์นี้เป็นการนำรูปแบบจากศูนย์ ITC ต้นแบบที่กรุงเทพมหานคร มาปรับให้เหมาะสมกับศักยภาพอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ เพื่อให้บริการและสนับสนุน SMEs ในระดับภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ของฝากและของที่ระลึกต่าง ๆ โดยเบื้องต้นศูนย์ ITC จ.เชียงใหม่ ให้บริการ SMEs ด้านผลิตภัณฑ์กาแฟ ชา และสมุนไพร พร้อมกันนี้ได้มีการเปิดหน่วยสกัดพืชนำมันแบบสกัดเย็น (Oil Extraction Unit) ที่ศูนย์ ITC อีกด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์ ITC จ.เชียงใหม่ เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงดิจิทัล รวมถึงภาคเอกชนต่าง ๆ ที่ผนึกกำลังตามนโยบายแนวทางประชารัฐในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแนะนำทางธุรกิจ วิจัยและออกแบบ และผลิตสินค้าตลอดจนบ่มเพาะ SME ให้สามารถปรับตัว พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่ประเทศไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น สภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีภาคเหนือ เครือข่าย Northern Thailand Food Valley เครือข่ายเชียงใหม่เมืองกาแฟ เครือข่าย Chiang Mai Digital Hub สมาคมการค้าผู้ประกอบการผลิตเครื่องจักรชิ้นส่วนโลหะและอุตสาหกรรมไทย (MiC-T) สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือเชียงใหม่ (NOHMEX) สมาคมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทย (ATED.CM) สถาบันการศึกษา และหน่วยงานร่วม อาทิ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP), ศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ (FIN), คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช., สวทช.ภาคเหนือ, สำนักงานอุตสาหกรรมเขตภาคเหนือตอนบน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อพัฒนาศักยภาพของ SMEs ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนมาอย่างต่อเนื่อง
นายอุตตม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้พื้นที่ภาคเหนือยังได้รับการส่งเสริมและพัฒนา ในการนำเอาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาช่วยในพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อย่างเช่นชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ชุมชนนำร่องหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ระยะที่ 2 ภายใต้โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) หรือ “หมู่บ้าน CIV” ที่เน้นการเพิ่มศักยภาพ ของผู้ประกอบการชุมชนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ เป็นของฝากของที่ระลึกควบคู่กับการบริหารจัดการเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยตนเอง ซึ่งคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการบริหารจัดการตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า
โดยชุมชนออนใต้ เป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีการค้นพบหลักศิลาจารึกสมัยลานนา มีทุนทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ยังคงรักษาไว้ได้ในปัจจุบัน นับว่าเป็นชุมชนเข้มแข็งตัวอย่างที่มีการนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ในพื้นที่ ผนวกกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่มาสร้างเป็นจุดขายในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม พร้อมกับการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมในท้องถิ่น มาพัฒนา และต่อยอด ด้วยแนวทางสร้างสรรค์ จากการออกแบบ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัยจนประสบความสำเร็จนอกจากนี้ ในปี 2561 กระทรวงฯ ยังได้ดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยการพัฒนาขยายเครือข่ายหมู่บ้าน CIV คือ “ชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ” ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมและวิถีชุมชน รวมถึงมีวิสาหกิจที่มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยชุมชน ตั้งแต่การทอผ้า ทำกระดาษสา และตุ๊กตาไม้ ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถผลิตและจำหน่าย ในรูปแบบของที่ระลึกประจำถิ่นที่ยังคงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไตลื้อ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น กระทรวงฯ จึงมีแนวทางผลักดันให้เกิดการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของ จ.เชียงใหม่โดยได้ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมกรมการท่องเที่ยวและกีฬาและกรมการพัฒนาชุมชนเข้าไปร่วมดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่นเป็นมักคุเทศน์นักประชาสัมพันธ์และสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมไตลื้อรวมถึงสร้างกิจกรรมทางวัฒนธรรมด้วยโปรแกรมการท่องเที่ยวพร้อมจัดที่พักโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต
โดยระหว่างกิจกรรม SMEs สัญจร ในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเสนอโครงการเรือธงหลักที่ช่วยตอบสนองความต้องการของพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ดังนี้
1) Workmanship Skill Up for Industry 4.0 เป็นการส่งเสริมการพัฒนาคนให้สอดรับกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยใช้ Smart Tools โดยเฉพาะการพัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับสังคมดิจิทัล มีเป้าหมายพัฒนาบุคลากรให้ได้ 1,000 คนภายในปีแรก
2) SME Spin-Out to Industrial Tech Startus โครงการเพื่อช่วยพัฒนา Startup และสนับสนุน R&D เพื่อพัฒนานวัตกรรมและเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้งภาคการเกษตร ภาคการค้า ภาคบริการ รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการส่งเสริมการนำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรม สู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนการเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมด้วยการเน้นการสร้างสรรค์การออกแบบ (Design) และการใช้งาน (Function) รวมถึงการให้ความสนับสนุนด้านกองทุนร่วมลงทุนให้กับกลุ่ม Startup ด้วย
3) Scale up to Market for Northern Thailand Food Valley มุ่งเน้นให้การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูปในภาคเหนือโดยสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบ่มเพาะผู้ประกอบการการมอบคูปองเสริมแกร่งด้านต่างๆ
4) Northern Thailand Health Valley มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์ จากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สปา และอาหารเสริม โดยการขับเคลื่อนในลักษณะห่วงโซ่มูลค่า ตั้งแต่การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการส่งเสริมการตลาด เช่น เชียงใหม่เมืองกาแฟ มุ่งเน้นพัฒนากาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสู่ตลาดโลก การพัฒนากาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสู่ตลาดโลกของโครงการ Northern Boutique Arabica Coffee ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะดำเนินการจัดตั้งสถาบันกาแฟ ณ ศูนย์ปฏิรูปสู่อุตสาหกรรม 4.0 หรือ ITC ที่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 จ.เชียงใหม่เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกาแฟในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างครบวงจร
5) การส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพร เพื่อให้ภาคเหนือเป็นศูนย์กลางของสุขภาพ พร้อมเชื่อมโยงการบริการด้านการท่องเที่ยวจากเมืองหลักขยายสู่เมืองรองในภาคเหนือ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมในทุกมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป
นอกจากนี้กระทรวงฯยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการเข้าสู่ยุค 4.0 โดยดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านการเสริมแกร่งให้แก่ SMEs รอบรู้เรื่องบัญชีและการเงิน และการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการส่งออก รวมถึงการเตรียมตัวเพื่อรับกรอบความร่วมมือในบริบทต่าง ๆ เช่น ACMECS ของ 5 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือกรอบหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ของจีน ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการจะฉกฉวยจังหวะนี้เพื่อเรียนรู้ ปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถของตนเพื่อก้าวสู่การแข่งขันในโลกสากลได้
อนึ่งการมุ่งพัฒนา SME ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป็นพันธกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากโดยเริ่มจากภาคเกษตรให้มีการปรับตัว พัฒนาผลผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มในการแปรรูปผลผลิต โดยการต่อยอดกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ให้ไปสู่ SME 4.0 พร้อมกัน
“เครือข่ายศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ จะต้องปรับตัวเองเป็นศูนย์ปฏิรูปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเป็น Platform สำคัญในการสนับสนุนยกระดับ SME ในทุกมิติ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการเข้าสู่ช่องทางการตลาดอย่าง E-Commerce เพื่อเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลกได้” นายอุตตม กล่าวสรุป
No comments:
Post a Comment