Monday, December 9, 2019

เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ เจ้าของผลงานการ์ตูนแนวจิตหลุดที่ดังไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัย

เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ เจ้าของผลงานการ์ตูนแนวจิตหลุดที่ดังไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัย

เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังอ่านคอลัมน์นี้ ต้องเคยผ่านการ์ตูนไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งในวัยเด็กมาอย่างแน่นอน และส่วนใหญ่น่าจะเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแน่นอน แต่เชื่อไหมว่า ทุกวันนี้การ์ตูนไทยก็ได้เป็นที่ยอมรับในวงการการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วเช้นกัน ด้วยฝีมือจากปลายปากกาของเขาคนนี้ “เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์“เจ้าของผลงานการ์ตูนแนวจิตหลุดโลกที่ดังไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัย

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

พี่เอกเริ่มสนใจการ์ตูนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?

ตั้งแต่สมัยป.6 ตอนนั้นมาเยี่ยมญาติที่กรุงเทพครับ แล้วที่ห้องเขามันเต็มไปด้วยการ์ตูน เป็นชั้นหนังสือการ์ตูนหมดเลยครับ แล้วตอนนั้นรู้สึกว่ามันตื่นตาตื่นใจมาก ไม่ได้ชอบเนื้อหาของมันนะ แต่ชอบสันหนังสือที่มันวางเรียงกัน มันเจ๋งดี แล้วก็เริ่มอ่านโดเรม่อนมาเรื่อย จนมาปิ๊งที่สุดก็คือการ์ตูนเรื่อง”อากิระ”ครับ เป็นธีมมอเตอร์ไซค์ใช้พลังจิต หลังจากนั้นก็เริ่มวาดการ์ตูนมาตั้งแต่ตอนนั้นครับ

การ์ตูนเรื่องแรกที่พี่เอกเขียน?

ตอนนั้นจะอยู่ในหนังสือการ์ตูนรวมชื่อ”Thai Comic” จะรวมเรื่องของนักเขียนการ์ตูนไทยยุคนั้นเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งการ์ตูนของพี่มีชื่อเรื่องว่า”Moon Eater”เป็นเรื่องสั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากเอเลี่ยนครับ เรื่องจะเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ไล่ล่าเด็กส่งของแล้วจบเรื่องด้วยการหักมุมอีกแบบนึงครับ

การ์ตูนของพี่เอกจะออกแนวจิตๆ จบด้วยการหักมุมเรื่องเสมอ ทำไมถึงเลือกเขียนแนวนี้ครับ?

ชอบอ่านหนังสือที่มีเนื้อเรื่องแบบหักมุมครับ แล้วก็หลงใหลความรู้สึกที่มันน่าตื่นเต้น อย่างเมื่อก่อนตอนที่อยู่ต่างจังหวัดน่ะครับ เขาจะชอบเล่าเรื่องผีกันตอนกลางคืน แล้วมันก็จะให้ความรู้สึกที่น่ากลัวมากๆ แล้วความรู้สึกมารวมตัวกันของเด็กๆ หลายคนตอนที่ผู้ใหญ่มาเล่าเรื่องผีมันมีเสน่ห์มากๆ ครับ พอโตมาก็ยังอ่านหนังสือแนวหักมุมอีกก็เลยติดใจยึดเรื่องแบบนี้มาตลอดครับ

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

เส้นทางของนักเขียนการ์ตูนของพี่เอกในช่วงเริ่มแรกเป็นยังไงบ้าง?

มันเหมือนอยู่บนความฝันครับ ใช้จินตนาการอย่างเดียวเหมือนมโนเอาว่าน่าเหมือนในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ประมาณนี้มั้ง เพราะเราไม่มีต้นแบบที่เป็นหนังสือการ์ตูนของไทยเลยในสมัยนั้น ไม่เห็นวี่แวว ไม่เห็นอนาคต ทุกอย่างทำบนความอยากของเราทั้งหมด เอาจริงมันก็เหมือนหลอกตัวเองว่าเราเป็นนักเขียนการ์ตูนแล้ว เดี๋ยวก็คงมีคนมาชอบ มาอ่านเรื่องของเราแหละ แต่มันก็มีความสุขนะตอนที่ทำโดยไม่ได้สนใจจริงจังว่าจะมีคนมาชอบมาอ่านเรื่องของเรารึเปล่า แค่ได้ทำก็มีความสุขแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วเส้นทางนักเขียนการ์ตูนในไทยมันไม่ได้สวยงามเลยครับ เพราะมันต้องทำเองทั้งหมด ไม่ได้มีผู้ช่วยเหมือนอย่างการ์ตูนของญี่ปุ่น ตั้งแต่คิดเรื่อง เขียน ลงเส้น ลงหมึก ไปยันการติดสกรีนเอง มันทรมานมาก แถมสมัยนั้นยังไม่มีอีเมล์ อิเตอร์หรืออะไร การส่งต้นฉบับคือเราต้องนั่งรถไปเสนอให้เขาดูเป็นแผ่นๆ รอเขาตอบกลับซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ไม่ได้

ได้ยินมาว่าตอนนี้ การ์ตูนของพี่เอกได้ไปตพิมพ์ถึงที่ญี่ปุ่นแล้ว?

อ๋อ คือมันเป็น E-Book ครับ มันเป็นการดีลกันของทางสำนักพิมพ์ครับ เหมือนกับว่าทางญี่ปุ่นเขาก็เสาะหางานใหม่ๆ ครับแล้วก็รายเส้นกับวิธีการไปโดนใจทางญี่ปุ่นเขาพอดี เขาก็ซื้อลิขสิทธิ์ไป ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นภาษญี่ปุ่นทั้งหมดครับ ก็รู้สึกประทับใจอยู่เหมือนกัน

พี่เอกเองก็เคยเขียนบทภาพยนตร์ด้วย อยากทราบว่ามันมีความแตกต่างจากการคิดเรื่องการ์ตูนกันบ้างมั้ยครับ?

เริ่มต้นมันจะคล้ายๆ กันครับ แต่การ์ตูนมันจะไปเร็วกว่าครับ เพราะมันใส่ได้เลย เราจะวาดอะไรยังไงก็ได้ มันจะไม่มีข้อกำหนดใดๆ เงื่อนไขมันจะน้อย แต่ถ้าเป็นหนังเนี่ยเงื่อนไขมันจะเยอะมากครับ มันจะจริงไปเสียทุกอย่าง ยกตัวอย่างก็เรื่อง 13 เกมสยอง ในการ์ตูนมันจะไปแบบหลุดโลกมากๆ แต่พอมันมาเป็นหนังแล้วเนี่ย ความเป็นเหตุเป็นผลมันมีมาก อย่างคนนี้เป็นคนแบบไหน แล้วจะต้องเป็นคนที่คิดยังไง ชอบอะไร ประมาณนี้ครับ

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

ภาพยนต์เรื่องแรกที่พี่เอกได้กำกับเอง?

เรื่องหลุด 4 หลุดครับ คือเขาให้ลองดูครับ ก็เลยรู้ว่า อือ! มันยากจริงๆ นะ แต่ถ้าเป็นแบบเต็มตัวก็จะเป็นซีรี่ย์”เพื่อนเฮี้ย โรงเรียนหลอน” อยู่ในส่วนของเรื่อง”เพื่อนร่วมห้อง”ก็จะรู้สึกได้ว่าเป็นผู้กำกับเต็มตัว จริงๆ แล้วหลายๆ คนก็ชวนไปกำกับหนังครับ แต่ด้วยที่ว่าพี่ทำงานประจำอยู่ แล้วการไปทำงานผู้กำกับมันค่อนข้างยาก ต้องใส่ใจมาก ถ้าจะทำจริงๆ คงต้องลาออกจากงานประจำเลยล่ะครับ ก็เลยยังไม่ทำเต็มตัวเลยดีกว่า

สำหรับตอนนี้พี่เอกมีคิดเกี่ยวกับโปรเจ็คใหม่ในส่วนของการ์ตูนบ้างมั้ยครับ?

ตอนนี้จะมีรวมเรื่องสั้นครับ ก็อย่างเรื่อง”ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด”ครับ เป็นภาคต่อครับ โดยเอาคาเรคเตอร์ของตัวละครจากภาคที่แล้วมาวาดต่อครับ แต่ผมจะวาดไว้หนึ่งตอนแล้วที่เหลือจะเป็นคนอื่นๆ มาร่วมวาดด้วย โดยตีความเจ้าตัวละครตัวนี้ในมุมของนักเขียนคนอื่นๆ ซึ่งก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับ

มีนักวาดการ์ตูนที่ยึดเป็นแบบอย่างมั้ยครับ?

โอโทโมะ คัตสืฮิโระ ที่วาดการ์ตูนเรื่อง”อากิระ”ครับ เพราะรู้สึกว่า เขามีพลัง แต่ละช่องเขามีความซีเรียส มีการวางคอมโพสต์ในแต่ช่องแต่ละหน้าไว้ได้สวยงามมากครับ คือรู้รู้ได้เลยว่าแต่ละช่องสามารถตัดมาวางเป็นหน้าปกได้เลย ก็เลยตรงนี้มาเป็นแบบอย่างครับ พอมาปัจจุบันก็มีอีกหลายๆ คนครับ อย่างนักเขียนการ์ตูนไทยผมก็จะดูรูปหลายๆ อย่างของแต่ละคนเอาไว้เป็นแบบอย่างครับ โดยเฉพาะเด็กๆ รุ่นใหม่เขาก็มีไอเดียที่เป็นแบบอย่างให้เราได้เหมือนกัน

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

ไอเดียของพี่เอกส่วนใหญ่จะมาในจังหวะไหนครับ?

ส่วนใหญ่จะนั่งฟังเพลงครับ แล้วบางเนื้อหรือจังหวะของเพลงจะทำให้ได้ไอเดียครับ ยิ่งถ้าเกิดเจอเพลงที่ใช่ที่ตรงกับโจทย์ที่ได้มานะครับ ภาพมันจะมาเลย มาเรื่อยๆ มาหมดเลย อย่างตอนที่เขียนบทเรื่อง”ศพ19” ผมไปได้เพลง”คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว”ของเจนนิเฟอร์ คิ้ม อันนั้นพอได้ฟังเพลงนี้นะภาพหนังเรื่องนี้มันมาทั้งหมดเลย ทั้งยวงเลย ได้หนังผีจิตๆ ที่ดูโรแมนติค ไอเดียส่วนใหญ่จะได้มาจากการฟังเพลงเนี่ยแหละครับ เพลงเป็นตัวนำเลย

ความเห็นของพี่เอกเกี่ยวกับอนาคตของการ์ตูนไทย?

สำหรับตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงครับ เพราะเราผ่านจุดที่เรียกว่าพีคสุดๆ มาแล้ว พีคสุดแล้วก็มาล่วงสุด ผมว่าตอนนี้เรากำลังงงกันหมด และคนที่ผลิตนี่แหละงงที่สุด ประมาณว่าเอาไงกับชีวิตดีวะ เพราะจากหนังสือมันกลายมาเป็น E-Book และจาก E-Book มันก็ดูว่าจะไม่ค่อยรุ่ง พอผลิตหนังสือดีๆ แต่ก็ไม่ซื้อ คนหันไปเสพคอนเท้นต์ง่ายๆ เร็วๆ คนผลิตคนเล่าเรื่องก็เลยเจอภาวะอาการงงๆ ว่าจะผลิตอะไรยังไงกันแน่ เพราะตอนนี้เราแทบไม่ต้องเสพเรื่องเล่าแล้ว เพราะเรื่องจริงมันไปอยู่ใน Feed เต็มไปหมดเลย ผมเลยคิดว่าวงการการ์ตูนไทยมันน่าจะอยู่ในช่วงพักนิดนึง แต่ไม่รู้ว่า ถ้ากลับมาแล้วจะลุยได้ต่อแบบเดิมหรือพักคราวนี้ก็พักยาวไปเลยกันแน่ เหมือนกำลังรอช้างเผือกสักคนที่ตีโจทย์แตกออกมาแล้วบูมเลย ประมาณนี้ครับ

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

ฝากอะไรถึงน้องๆ รุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูนสักนิดนึงครับ?

เราต้องมีความอยากของตัวเองก่อนนะครับ ใช้ความอยากเป็นที่ตั้ง เหมือนอย่างตอนที่พี่เขียนการ์ตูนแรกๆ พี่ก็ยังไม่รู้ตัวเองอยากจะเป็นอะไร อยากจะมาแนวไหน เหมือนไม่ได้สนใจว่าจะมีใครอ่านหรือไม่อ่าน แต่มีความรู้สึกจินตนาการไปก่อนว่า“เราเชื่อในสิ่งนี้ เราอยากทำในสิ่งนี้แล้วมีความสุขเป็นพอ”แล้วเดี๋ยวผลตอบรับมันจะมาเอง ถ้าเราใช่จริงๆ กับสิ่งนี้นะครับ แล้วก็อย่าไปดูคนอื่นมากจนเกินไป เพราะจะเกิดการเปรียบเทียบอาจจะทำให้ท้อได้ ต้องอดทนในสิ่งที่ทำให้ได้ด้วยครับ

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิตยสาร RUSH ได้ที่ Facebook : facebook.com/RUSHmag IG : instagram.com/rush_magazine_official/ RUSH VDO : seeme.mthai.com/ch/rush

RUSH#95 July

 เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

Link Source : https://men.mthai.com/rushmag/variety/144195.html

เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ของขวัญ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ หนังสือ, การ์ตูน เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์, เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์ สัมภาษณ์, การ์ตูน ของ เอกสิทธิ์ ไทย รัตน์

No comments:

Post a Comment