แม่ร้องลูกกินกุ้งเต้นเกิดแพ้ ไปหาหมอไม่ถึง 24 ชม.เสียชีวิต
แม่ร้องลูกสาวกินกุ้งเต้นเกิดแพ้ ไปหาหมอไม่ถึง 24 ชม.เสียชีวิต หลังถูกฉีดยาเข้าไป ระบุติดใจสาเหตุการตาย
วันนี้23 พฤศจิกายน2561 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางบุญยืน จันทร์เจิม อายุ 50 ปี ว่า บุตรสาวตนเองอายุ 25 ปี ได้รับประทานกุ้งเต้นไปแล้วเกิดอาการแพ้จนปากบวม จึงเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง กระทั่งแพทย์ได้ทำการฉีดยาไปในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชม.ก่อนจะเสียชีวิต
โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางไป ก็ยังมีอาการทุกอย่างปกติมีเพียงอาการปากบวม หลังจากลูกสาวเสียชีวิตตนเองได้ไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ แต่เรื่องกลับเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนเองจึงร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อต้องการให้ส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
นางบุญยืน จันทร์เจิม มารดาผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 17 สิงหาคม 2561 ลูกสาวได้ไปซื้อยำกุ้งเต้นที่ตลาดนัดมารับประทานกระทั่งเวลา 22.00 น.วันเดียวกันมีอาการแพ้ริมฝีปากบวม หายใจติดขัด อาเจียน จึงได้รับประทานยาแก้แพ้ไปอาการดีขึ้น
กระทั่งรุ่งเช้าคือวันที่ 18 สิงหาคม2561 ตนเองเห็นว่าริมฝีปากลูกสาว ยังไม่หายบวมจึงขับขับจักรยานยนต์ไปด้วยกันกับลูกสาว และหลานไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิต เวลาประมาณ 10.30 น.โดยที่ลูกสาวขับจักรยานยนต์ ตนเองซ้อนท้ายไปพร้อมหลานสาว กระทั่งแพทย์ได้วัดความดันพร้อมกับนำเข้าห้องฉีดยาจำนวน 2 เข็ม
โดยแพทย์แจ้งกับญาติว่า คนไข้ได้รับการฉีดยาและต้องนอนรอดูอาการ ให้มารดาไปจองห้องตนเองจึงทำตามสั่ง ก่อนจะมั่งรอหน้าห้องที่ลูกรอดูอาการตามปกติ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ตนเองเห็นลูกไม่ออกมาจึงเปิดประตูไปดู เห็นลูกสาวนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ แต่ยังไม่ได้ฉีดยา
กระทั่งแพทย์ได้บอกกลับมาว่า จากการเช็คสิทธิ์ประกันสังคมพบว่า ผู้ป่วยไม่ได้มีสิทธิ์การรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และมารดาจะสามารถสำรองจ่ายค่ารักษาหรือไม่ ตนเองจึงตอบไปว่าตกลงสำรองจ่ายก่อนแพทย์ได้ให้ญาติอออกมารอด้านนอก หลังจากนั้น 3-5นาที แพทย์และพยาบาลได้ไปเข็นเครื่องช่วยหายใจมา
ตนเองก็ไม่คิดว่าจะเข็นเครื่องมือมาให้ลูกสาวตนเองเพื่อช่วยชีวิต เมื่อตรวจสอบตนเองเห็นลูกสาวตนเองก็มีอาการทุรนทุรายช็อคดิ้นไปมาไม่ได้สติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข็นไปห้องไอซียู ซึ่งตนเองไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว
กระทั่งแพทย์ได้เรียกตนเองไปคุยแจ้งว่า ลูกสาวตนเองมีภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอดหมอฉีดยาไป 2เ ข็ม โดยเข็มที่ 3 คือยากระตุ้นหัวใจ เพราะผู้ป่วยความดันต่ำ กระทั่งเสียชีวิตต่อมาเมื่อเวลา 19 สิงหาคม2561 เวลา 06.30น. ซึ่งตนเองรับไม่ได้เพราะลูกไม่ได้มีอาการล้มหมอนนอนเสื่อ หรือเจ็บป่วยอย่างหนักถึงขั้นที่คาดว่าจะมาเสียชีวิต
หลังลูกสาวเสียชีวิต ได้ส่งตัวไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว รอผลทางห้องปฏิบัติการ จากนั้นตนเองจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพราะติดใจการเสียชีวิตของลูก ประกอบกับไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กระทรวงสาธารณะสุข สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี แต่ทุกอย่างเงียบสนิท
หลังจากลูกสาวเสียชีวิต ตนเองต้องรับภาระเรื่องในบ้าน เพราะลูกสาวทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังเจริญเติบโต ร้องถามหาแม่ทุกวันว่า แม่ไปไหนทำไมไม่กลับมา ซึ่งตนเองอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่มีความรู้ช่วยดำเนินการทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจน