ทำบ้านเสร็จตามกำหนดด้วยการวางแผน ปรับปรุงบ้าน ให้เหมาะกับฤดูกาล
สำหรับผู้มองหาบ้านหรืออาคารมือสองเพื่ออยู่อาศัยหรือทำธุรกิจ นอกจากการเลือกทำเลให้ถูกใจแล้ว การปรับปรุงสภาพบ้านหรืออาคารให้สามารถใช้งานได้ดีก็เป็นเรื่องที่ทำให้เจ้าของมือใหม่หลายคนรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย ด้วยปัญหายิบย่อยมากมายที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการทำงาน อาทิ ทำหลังคาในฤดูฝนทำให้งานทุกอย่างเสร็จล่าช้า เคลือบไม้ด้วยแล็กเกอร์แล้วออกมาขุ่น หรือช่างฉาบทำงานช้าเพราะบ่นว่าร้อน เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่พร้อมจะทำให้ระบบการทำงานทั้งหมดรวนกันไปเป็นทอด ๆ เพราะขาดการวางแผนเรื่องการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ครั้งนี้เราขอนำเสนอการ วางแผน ปรับปรุงบ้าน แบบฤดูต่อฤดู นอกจากไม่ทำให้เจ้าของบ้านเสียเวลาแล้ว ยังทำให้การทำงานไหลลื่นอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ
วางแผน ปรับปรุงบ้าน ให้เหมาะกับฤดูกาล
การปรับปรุงอาคารมักใช้เวลาตั้งแต่ขั้นตอนการสำรวจสภาพอาคารออกแบบ ดำเนินการ จนเสร็จสิ้น ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 - 6 เดือนแล้วแต่ว่าจะปรับปรุงอะไรบ้าง
โดยพื้นฐานแล้วแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. งานซ่อมแซม หรือการคงสภาพอาคารเพื่อให้ใช้งานอาคารได้ต่อไป อาจเกิดขึ้นเมื่อวัสดุหมดอายุหรือเกิดความเสียหาย และได้ซ่อมแซมตามแบบเดิมของอาคาร
2. งานปรับปรุง มักเกิดขึ้นเมื่ออาคารมีการใช้งานที่เปลี่ยนไป หรือต้องการปรับเปลี่ยนวัสดุให้ดีกว่าเดิม หรือต้องการเปลี่ยนสไตล์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ตามยุคสมัย
3. งานต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ต่อจากอาคารหรือรื้อออกเพื่อใช้โครงสร้างเดิมในรูปแบบใหม่ก็อาจส่งผลกระทบกับอาคารเดิมได้ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ
การปรับปรุงอาคารทุกประเภทต้องเริ่มต้นด้วยการพูดคุยเรื่องการออกแบบจากนั้นจึงเป็นการลงรายละเอียดในการก่อสร้าง เพื่อให้การทำงานราบรื่นมากที่สุดลองไปดูกันว่างานประเภทไหนควรจะเริ่มในช่วงเดือนใด
ฤดูฝน กลางเดือนพฤษภาคม - กลางเดือนตุลาคม หลายคนคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะจะทำงานก่อสร้างใดๆ จริงๆ แล้วการปรับปรุงไม่ได้มีแค่ขั้นตอนการก่อสร้างเท่านั้น งานออกแบบและการวางแผนที่ดีก็มีส่วนช่วยให้การลงมือทำเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น ฤดูนี้จึงเหมาะกับการสำรวจสภาพอาคารและวางแผนการออกแบบปรับปรุงต่อไป
สำรวจสิ่งที่ต้องทำกับบ้าน ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่สิ่งผิดปกติต่างๆ ของบ้านจะแสดงออกมาให้เห็นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอยรั่ว รอยแตกร้าว หรือสีลอกล่อนควรใช้เวลาในช่วงนี้สำรวจบ้านและจดบันทึกสิ่งที่ต้องซ่อมแซม รวมถึงสิ่งที่อยากปรับปรุงเอาไว้
ออกแบบ ถึงช่วงนี้จะไม่เหมาะกับการเริ่มก่อสร้าง แต่ก็ควรมองหาสถาปนิกและเริ่มพูดคุยถึงสิ่งที่ต้องทำ เพื่อจะได้ใช้เวลาในการออกแบบและวางแผนการก่อสร้างได้อย่างเต็มที่
เลือกหาวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ควรเริ่มกำหนดสเป็คของงานก่อสร้างแต่เนิ่นๆ การไปเดินดูวัสดุร่วมกับผู้ออกแบบจะทำให้เราได้ตัดสินใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านของเรา ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาค่อนข้างมากเช่นกัน
ลงต้นไม้ใหญ่ ฤดูฝนเป็นช่วงที่เหมาะกับการตัดแต่งต้นไม้และลงไม้ใหญ่เนื่องจากต้นไม้จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในระหว่างช่วงกลางฤดู หากมีแผนจะปรับปรุงสวนหรือตัดแต่งต้นไม้ในบ้านก็ควรทำในช่วงนี้เช่นกัน
ฤดูร้อน กลางเดือนกุมภาพันธ์ - กลางเดือนพฤษภาคม
เก็บงานทำสี ช่วงปลายฤดูหนาวที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนเป็นเวลาที่เหมาะกับการเก็บงานทำสี ทั้งงานไม้ที่ชอบแดดแรงๆ อากาศแห้งๆ และเก็บสีผนังทั้งภายในและภายนอกบ้าน
งานถมพื้นและลงเข็ม การลงเข็มขนาดตั้งแต่ 0.5 เมตรเป็นต้นไปจำเป็นต้องรอให้ดินยุบตัวตามธรรมชาติจนกระทั่งอยู่ตัวเสียก่อน การถมที่ใหม่จึงควรทำในฤดูนี้และปล่อยให้ผ่านฤดูฝนไปก่อนก็เป็นอันใช้ได้
ฤดูหนาว กลางเดือนตุลาคม - กลางเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงนี้เหมาะกับการซ่อมแซมบ้านมากที่สุด เพราะฝนหยุดตกแล้ว สภาพอากาศก็ค่อนข้างเย็นสบาย แต่จะลงมือซ่อมอะไรก่อน - หลัง ควรเริ่มต้นด้วยการเดินสำรวจให้ทั่วบริเวณบ้านทั้งภายในแลภายนอก ดูว่ามีจุดใดที่เสียหายจากฟ้าฝนบ้าง เช่น มีน้ำรั่วซึมที่ฝ้าเพดาน สีทาผนังโป่งพอง จะได้แก้ไขได้ตรงจุด
แก้ปัญหารั่วซึมและแตกร้าว เมื่อฝนผ่านพ้นไปก็ได้เวลาสะสางปัญหาบ้านรั่วซึมและแตกร้าวกันเสียที
จัดการงานหลังคา จะเปลี่ยนวัสดุมุงหรือปรับปรุงหลังคาก็ควรทำในช่วงนี้เพื่อจะได้มีที่กันแดดกันฝนสำหรับจัดการงานอื่นต่อไป
ซ่อมงานปูนและงานกระเบื้อง หากมีพื้นหรือผนังที่เป็นงานปูนหรือกรุกระเบื้องได้รับความเสียหาย นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมแซม
แก้ไขงานระบบ ได้แก่ ระบบประปาและไฟฟ้า ไม่ว่าจะเดินท่อหรือฝังผนังในเมื่อมีช่างจัดการกับงานปูนอยู่แล้ว ก็สามารถทำงานระบบนี้ควบคู่กันไปได้เลย
ทำงานไม้ เช่น กรอบวงกบ ประตู หน้าต่าง หรือพื้น เมื่องานปูนเสร็จสิ้นก็ถึงคราวเริ่มทำงานไม้และงานตกแต่งต่างๆ อากาศเย็นๆ แห้งๆ ในช่วงนี้ทำให้สามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาทั้งภายในและภายนอกบ้าน
หวังว่าคุณผู้อ่านคงเห็นภาพชัดขึ้นว่าควรวางแผนการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านในช่วงเวลาใดของปี แต่หากคุณต้องการความมั่นใจในการเลือกบ้านหรืออาคารมือสองที่มีคุณภาพ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจากนิตยสารบ้านและสวน
เรื่อง : “B.W.” ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน คอลัมน์ : รู้ทีละนิด
No comments:
Post a Comment